บทที่ 4
ทุกคนที่ได้รับคำเชิญมายังเกาะสวรรค์ต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง แล้วทำไมคุณถึงมาล่ะ อัลเบอร์ต้ากำลังขุดคุ้ยหาคำตอบเช่นเดียวกับเขา เธอไม่เชื่อหรอกว่าทุกคนที่ได้รับคำเชิญจะใสซื่อบริสุทธิ์ไปเสียหมด
พวกผู้เล่นที่โวยวายตีโพยตีพายเหล่านี้คงแค่เสแสร้งแกล้งทำ อัลเบอร์ต้าไม่เสียเวลาไปกับละครตบตาพรรค์นั้น
“หลีกไป อย่ามาสงสัยฉัน และอย่าคิดที่จะเป็นศัตรูกับฉันเด็ดขาด” อัลเบอร์ต้าพูดเสียงเย็น
หลังจากสลัดชายผมสีเกาลัดที่ตื๊อไม่เลิกทิ้งไปได้ อัลเบอร์ต้าก็พาร็อดเดอริกกลับไปที่ห้องพักของพวกเขา
ทุกอย่างข้างในยังคงอยู่ในสภาพเดิมเหมือนตอนที่เธอจากมา อัลเบอร์ต้าตรวจดูหมากฝรั่งที่เธอแปะไว้หลังประตูเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครเข้ามา
ร็อดเดอริกมองไปรอบๆ อย่างผิดหวังเล็กน้อย “ลุงลอว์เรนซ์ไม่ได้อยู่ที่นี่ครับ”
อัลเบอร์ต้าหัวเราะเบาๆ “ฉันก็อยากให้เขาโผล่มาในห้องฉันเหมือนกัน โดยเฉพาะบนเตียงน่ะ”
เธอเคาะศีรษะของร็อดเดอริกเบาๆ “ต้องไปอาบน้ำแล้วนะร็อดดี้ ตัวมอมแมมไปหมดแล้ว”
ร็อดเดอริกหน้าแดงก่ำพลางยกมือปิดหน้าแล้ววิ่งพรวดเข้าห้องน้ำไป
อัลเบอร์ต้าเปิดก๊อกน้ำให้เขาและปล่อยให้เขาเล่นน้ำอยู่ในนั้น เธอซักเสื้อผ้าสกปรกของเขาในอ่างล้างหน้าแล้วนำไปวางแผ่ไว้บนพื้นข้างเตียง รู้สึกพึงพอใจกับตัวเองไม่น้อย เธอคิดว่าสักวันหนึ่งเธอคงเป็นภรรยาที่ดีได้แน่
สิบห้านาทีต่อมา ร็อดเดอริกเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพตัวเปียกโชกและสวมเสื้อยืดตัวหนึ่งของอัลเบอร์ต้า เขาดึงชายเสื้ออย่างเขินอาย “เสื้อของพี่ดูเหมือนชุดกระโปรงสำหรับผมเลย แต่ผมเป็นเด็กผู้ชายนะ”
“ใส่ไปก่อนเถอะน่า” อัลเบอร์ต้าพูดพลางใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมให้เขา “ช่วยเล่าให้พี่ฟังหน่อยได้ไหมว่าหนูมาอยู่บนเรือลำนี้ได้ยังไง” เธอถามอย่างอ่อนโยน
สีหน้าของร็อดเดอริกสลดลง “คนขับรถมารับผมที่โรงเรียนแต่ไม่ได้พาผมกลับบ้าน รถวิ่งไปนานมาก แล้วผมก็เผลอหลับไป พอตื่นขึ้นมาอีกที ลุงลอว์เรนซ์ก็กำลังอุ้มผมวิ่งอยู่ครับ”
อัลเบอร์ต้าหรี่ตาลง “ใครไล่ตามพวกหนูมา”
ร็อดเดอริกส่ายหน้า “ลุงลอว์เรนซ์บอกว่าพวกเขาเป็นคนไม่ดีครับ”
“จำได้ไหมว่าพวกคนไม่ดีหน้าตาเป็นยังไง” อัลเบอร์ต้าถาม
“มีหลายคนเลยครับ ทุกคนสวมหน้ากากสีขาว!” ร็อดเดอริกตอบ
อัลเบอร์ต้าครุ่นคิด พวกยามบนเกาะสวรรค์สวมชุดต่อสู้สีดำกับหน้ากากสีขาว ชาวเกาะเรียกพวกเขาว่า ‘ผู้คุมกฎ’
ร็อดเดอริกเงยหน้ามองเธอ “ผมโทรหาพ่อแม่ได้ไหมครับ”
“ตอนนี้ยังไม่ได้” อัลเบอร์ต้ากล่าว “เราอยู่กลางทะเล มีแค่โทรศัพท์ดาวเทียมเท่านั้นที่โทรออกได้ เดี๋ยวพี่จะหามาให้ทีหลังนะ”
“ไม่เป็นไรครับ” ร็อดเดอริกพูดพลางก้มหน้ามองเท้าตัวเอง “พวกท่านไม่ค่อยว่างหรอกครับ ปกติที่บ้านก็มีแค่ผมกับพี่เลี้ยงทุกวัน พวกท่านอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมหายตัวไป ก็เลยยังไม่มาตามหาผม! ผมอยากเจอลุงลอว์เรนซ์...”
“เราจะตามหาเขาให้เจอแล้วกลับบ้านไปด้วยกันนะ” อัลเบอร์ต้าพูดพลางแบมือออก “ดูนี่สิ”
ดวงตาของร็อดเดอริกเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ “ผีเสื้อนี่ครับ!”
ในมือของเธอมีผีเสื้อตัวเล็กสีน้ำเงินเมทัลลิก ปีกของมันขยับเบาๆ ราวกับมีชีวิต มันมีความยาวไม่เกินสองข้อนิ้ว
บนหลังของผีเสื้อส่องแสงสีแดงจางๆ เมื่อมองใกล้ๆ จะเห็นเลนส์กล้องขนาดจิ๋วซ่อนอยู่
มันคือเครื่องบันทึกวิดีโอขนาดจิ๋วที่ปีกทำจากแผงโซลาร์เซลล์ มีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก และสามารถทำงานได้นาน 5-8 ชั่วโมง อัลเบอร์ต้าได้ทิ้งผีเสื้อสีน้ำเงินแบบนี้ไว้ตัวหนึ่งที่จุดปลอดภัยบริเวณท้ายเรือ หากมีใครบุกรุกเข้ามา ผีเสื้อที่อยู่ในโหมดพักจะเปิดใช้งานเมื่อตรวจจับเสียงได้ ทำให้เธอสามารถตรวจสอบได้ผ่านซอฟต์แวร์บนโทรศัพท์มือถือของเธอ
“น่ารักไหม ชอบหรือเปล่า” อัลเบอร์ต้าถามพลางชี้ไปที่ผีเสื้อตัวนั้น
“สุดยอดเลย! ผมชอบมันครับ” โรเดอริกพูดพลางลูบไล้ปีกโลหะของผีเสื้ออย่างแผ่วเบา “มันบินได้ไหมครับ”
“มันบินกลางแดดได้ชั่วครู่ จากนี้ไป มันคือเพื่อนตัวน้อยของหนูนะ” อัลเบอร์ตาพูดพลางวางผีเสื้อลงบนมือของโรเดอริก
ผีเสื้อตัวนั้นมีเซ็นเซอร์พิเศษติดตั้งอยู่ และอัลเบอร์ตาจะสามารถติดตามตำแหน่งของมันผ่านซอฟต์แวร์ได้ในรัศมี 900 ฟุต เธอไม่ได้คาดคิดว่าจะต้องช่วยเด็กคนหนึ่งก่อนขึ้นเรือ แต่การให้ผีเสื้อแก่โรเดอริกก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะป้องกันไม่ให้เขาพลัดหลง
เวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง อัลเบอร์ตาหยิบผีเสื้อมาอีกสองสามตัวแล้วพาโรเดอริกออกจากห้องพัก
ทันทีที่พวกเขามาถึงโถงหลักบนชั้นหนึ่ง ก็มีคนเรียกเธอ
“เฮ้!” เป็นชายผมสีเกาลัดคนเดิมนั่นเอง เขาเบียดเสียดฝูงชนเพื่อตามอัลเบอร์ตาให้ทัน “เราต้องคุยกัน!”
“เรื่องอะไร” อัลเบอร์ตาตอบปัดๆ พลางกวาดตามองไปทั่วห้องและรู้สึกงุนงงเล็กน้อย
ผู้เล่นบนชั้นหนึ่งดูจริงจังแต่ไม่ตึงเครียดและตื่นตระหนกเหมือนตอนเที่ยง พวกเขาไม่ได้อออยู่รอบห้องครัวอีกต่อไป แต่นั่งคุยกันเสียงเบาอยู่ในร้านอาหารที่ปิดให้บริการ อัลเบอร์ตาไม่รู้สึกถึงวิกฤตใดๆ ในหมู่พวกเขา
มันไม่เหมือนบรรยากาศก่อนที่ใครบางคนกำลังจะตาย
“ผมชื่อเซน กิบสัน แอนดรูว์เป็นน้องชายบุญธรรมของผม!” เซนขวางทางอัลเบอร์ตาไว้และเร่งเร้าเชิญเธอไปคุยเป็นการส่วนตัว “แอนดรูว์วาดรูปเก่ง เขาเคยร่างภาพคนแบบพวกคุณไว้”
เซนเน้นย้ำคำว่า “คนแบบพวกคุณ” พลางขยิบตาอย่างมีความนัยและรอปฏิกิริยาของอัลเบอร์ตา
แต่อัลเบอร์ตาไม่ได้มีปฏิกิริยาอย่างที่เขาคาดหวัง สีหน้างุนงงของเธอดูเหมือนเป็นของจริง “แอนดรูว์ไหน”
“เลิกเสแสร้งได้แล้ว คุณชื่อแอนนา คุณกับแอนดรูว์มาจากเกาะสวรรค์” เซนพูดเสียงต่ำ “พ่อแม่ของผมรับแอนดรูว์มาเป็นลูกบุญธรรม เขาเล่าเรื่องเกาะสวรรค์ให้ผมฟัง”
“ฉันยังไม่รู้อยู่ดีว่าคุณพูดถึงใคร” อัลเบอร์ตายักไหล่
เธอพูดความจริง
บนเกาะนั้นมี “ฟาร์มเพาะพันธุ์” อยู่แห่งหนึ่ง เด็กที่เกิดที่นั่นจะถูกส่งไปยังที่ต่างๆ หลังจากอายุครบหนึ่งเดือน ‘พ่อ’ ของเธอ มิเกล วอลเลซ ชายบ้าที่หลงใหลในการทดลองกับมนุษย์ ได้ตั้งชื่อเด็กผู้หญิงทุกคนในห้องทดลองของเขาว่า ‘แอนนา’ และเด็กผู้ชายทุกคนว่า ‘แอนดรูว์’ โดยแยกแยะพวกเขาด้วยหมายเลขเท่านั้น
เนื่องจากเกิดในวันศุกร์ที่ 13 อัลเบอร์ตาจึงได้รับฉายาว่า “แอนนาทมิฬ” ชื่อนี้ปลุกความทรงจำอันห่างไกลของเธอกลับคืนมา ในที่สุดเธอก็มองสบตาเซน “ทำไมคุณถึงตอแยไม่เลิก คุณต้องการอะไร”
เซนอายุราวยี่สิบต้นๆ รูปร่างสูงเพรียว มีคิ้วสีอ่อนที่ไม่เข้ากับสีผมที่เพิ่งย้อมมาใหม่ ดวงตาของเขาเผยให้เห็นความทะเยอทะยานและเจ้าเล่ห์
อัลเบอร์ตาเริ่มวิเคราะห์การแต่งกายและท่าทางของเขาโดยสัญชาตญาณ เซนเป็นคนพูดจาฉะฉานและมั่นใจในทักษะการสื่อสารของตนเอง แต่นิสัยที่อยู่ไม่สุขของเขาบ่งบอกว่าเขาไม่เหมาะกับงานนั่งโต๊ะ ถ้าเขาไม่ใช่พนักงานขายหรือตัวแทนประกัน ก็คงจะเป็นนักต้มตุ๋นที่คอยหลอกลวงผู้หญิงเพื่อเอาเงิน
เซนตระหนักได้ว่าอัลเบอร์ตาไม่ได้ควบคุมง่ายเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขาเคยเจอ
เมื่อเริ่มหมดความอดทน เขาจึงพูดขึ้นว่า “คุณเคยบอกว่าทุกคนมาที่เกาะนี้ด้วยเป้าหมายบางอย่าง ถ้าเรารอดจากเกมหนีตายบนเกาะสวรรค์ไปได้ เราจะได้รับรางวัลมหาศาล! คุณรู้จักเกาะนี้ดีกว่าผม เรามาร่วมมือกันได้นะ คุณทั้งสาวทั้งสวย แถมยังมีลูกอีก การมีผู้ชายคอยคุ้มครองก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร”
“คุ้มครองฉันเหรอ คุณเนี่ยนะ” อัลเบอร์ตาแค่นหัวเราะ
เซนพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด “คุณรู้ไหมว่าในเกมหนีตายมันมีกฎที่ซ่อนอยู่ ถ้าคุณร่วมมือกับผม ผมจะบอกคุณ”






















































































































































































































